[ปักกิ่ง จีน 23 มกราคม 2025] เมื่อไม่นานนี้ หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ ได้รับการรับรองระบบการจัดการช่องโหว่จาก BSI ซึ่งครอบคลุมมาตรฐานสากลสามมาตรฐาน ได้แก่ การจัดการความปลอดภัยข้อมูล ISO/IEC 27001, การเปิดเผยช่องโหว่ ISO/IEC 29147 และกระบวนการจัดการช่องโหว่ ISO/IEC 30111 ด้วยแนวทางการจัดการช่องโหว่ที่โดดเด่น หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ จึงเป็นหนึ่งในองค์กรแรก ๆ ที่ได้รับการรับรองนี้ ขอบเขตของการรับรองครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ ในโดเมนธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์อัจฉริยะ Data Center Facility & Critical Power และ DriveONE รวมทั้งแพลตฟอร์มการจัดการพลังงานดิจิทัล
Huawei Digital Power ได้รับใบรับรอง ISO/IEC 29147 และ ISO/IEC 30111 จากผู้อำนวยการฝ่ายขายจีนแผ่นดินใหญ่ของ BSI
การรับรองนี้เป็นชุดรางวัลการรับประกันความน่าเชื่อถือทางดิจิทัลที่ริเริ่มโดย BSI ซึ่งมุ่งหวังที่จะให้การยอมรับความสำเร็จขององค์กรในการสร้างความน่าเชื่อถือทางดิจิทัล ด้วยการเปลี่ยนแปลงการทำงานให้เป็นระบบดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วโลก การโจมตีความปลอดภัยทางไซเบอร์จึงเกิดขึ้นบ่อยครั้งและเป็นระบบอัตโนมัติมากขึ้น ช่องโหว่ที่มีความเสี่ยงสูงและเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งเป็นแรงผลักดันให้เกิดกฎหมายกำกับดูแลและเทคโนโลยีใหม่ ๆ
หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ เป็นผู้ขับเคลื่อนหลักของการเปลี่ยนแปลงการทำงานให้เป็นระบบดิจิทัลระดับโลกในภาคพลังงาน กลยุทธ์การพัฒนาที่สำคัญประการหนึ่งของบริษัทคือ การสร้างความสามารถด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่องในการเปลี่ยนแปลงการทำงานให้เป็นระบบดิจิทัล และสร้างระบบการรับประกันความปลอดภัยทางไซเบอร์แบบครบวงจรสำหรับพลังงานดิจิทัล เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ จึงได้จัดตั้งระบบการจัดการช่องโหว่ที่ยั่งยืนและเชื่อถือได้ ซึ่งครอบคลุมถึงนโยบาย องค์กร กระบวนการ การจัดการ เทคโนโลยี และข้อกำหนด นอกจากนี้ หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ ยังเปิดกว้างสำหรับการร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอกเพื่อจัดการกับความท้าทายด้านช่องโหว่ร่วมกัน
หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ จะยังคงยึดมั่นในหลักการ 5 ประการในการจัดการช่องโหว่อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การลดอันตรายและความเสี่ยง การลดและการบรรเทาช่องโหว่ การจัดการเชิงรุก การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และการทำงานร่วมกันแบบเปิดกว้าง Huawei Digital Power จะนำแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการจัดการช่องโหว่มาใช้กับมาตรฐานอุตสาหกรรมเพื่อสร้างระบบการจัดการช่องโหว่ที่ครอบคลุมครบวงจร ซึ่งครอบคลุมตลอดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์และห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด โดยบรรเทาความเสี่ยงในเครือข่ายแบบเรียลไทม์ของลูกค้า
