หน้าหลัก ข่าวสาร

Charles Yang จาก Huawei: การช่วยให้ผู้ประกอบการประสบความสำเร็จท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนทั่วโลก

27 ก.พ. 2024

[บาร์เซโลนา สเปน วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2024] เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่งาน MWC 2024 Huawei ได้จัดงานประชุม Digital Power ระดับโลก โดย Charles Yang รองประธานอาวุโสของ Huawei และประธานฝ่ายการตลาด การขายและการบริการระดับโลกของ Huawei Digital Power ได้กล่าวสุนทรพจน์สำคัญเกี่ยวกับ "การช่วยให้ผู้ประกอบการประสบความสำเร็จท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านที่นำไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนทั่วโลก" Charles ได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มอุตสาหกรรมล่าสุด โซลูชันที่เป็นนวัตกรรม และแนวทางปฏิบัติที่จะสามารถทำให้ประสบความสำเร็จ 

 

Charles Yang, Senior Vice President of Huawei and President of Global Marketing and Sales services Dept, Huawei Digital PowerCharles Yang รองประธานอาวุโสของ Huawei และประธานฝ่ายการตลาด การขาย และบริการระดับโลกของ Huawei Digital Power 

 

Charles Yang เน้นย้ำว่าความเป็นกลางทางคาร์บอนได้เปลี่ยนผ่านจากฉันทามติระดับโลกไปสู่การดำเนินการในระดับโลกแล้ว การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การพัฒนาไฟฟ้า การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และระบบอัจฉริยะที่กำลังเกิดขึ้น กลายเป็น 4 วิธีการที่สำคัญในการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงพลังงาน ในบริบทนี้ผู้ประกอบการได้ร่วมกันพัฒนาการประหยัดพลังงานและการวางแผนลดการปล่อยคาร์บอนอย่างละเอียดลงในกลยุทธ์การพัฒนาที่ยั่งยืนของตน และเร่งการเปลี่ยนผ่านพลังงานเป็น ICT ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยในการบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอน ผู้ประกอบการจำเป็นต้องคว้าโอกาสการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานด้วยความเป็นกลางทางคาร์บอนทั่วโลก ขณะที่ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทาย 3 ประการคือ ความกดดันในการลดการปล่อยคาร์บอน ค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าที่สูง และการเติบโตที่ช้า 

ในทางกลับกัน ความท้าทายเหล่านี้กลับกระตุ้นให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนจากผู้ใช้พลังงานเพียงอย่างเดียวมาเป็นผู้ใช้พลังงาน ผู้ผลิต และผู้มอบพลังงาน ในฐานะผู้ใช้พลังงาน พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่มีนวัตกรรมใหม่ช่วยให้แต่ละวัตต์ผลิตบิตได้มากขึ้น เพื่อบรรลุเป้าหมายการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในฐานะผู้ผลิตพลังงาน พวกเขาก็สามารถใช้ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ โดยนำระบบ PV แบบกระจายศูนย์ไปใช้ในสถานที่และพื้นที่ต่าง ๆ นอกจากนี้ การมีระบบกักเก็บพลังงานในสถานที่ทำให้สามารถตั้งโรงไฟฟ้าเสมือนจริง (VPP) ได้ซึ่งช่วยลดความต้องการพลังงานในช่วงที่ต้องการใช้สูงและช่วยควบคุมความถี่สำหรับระบบกำลังไฟฟ้า ในฐานะผู้มอบพลังงาน ผู้ประกอบการสามารถใช้บิตเพื่อจัดการกับวัตต์ได้ กล่าวคือสามารถที่จะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มความมั่นใจเกี่ยวกับความเสถียรของพลังงานทั้งในระบบพลังงานหมุนเวียนและระบบพลังงานแบบเดิม 

  • ผู้ใช้พลังงาน: ขยายประสิทธิภาพและลดการใช้งาน 

ในฐานะผู้ใช้พลังงาน ผู้ประกอบการจะสร้างศูนย์ข้อมูลในสถานที่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสถานที่ชาร์จ รวมไปถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงานโดยรวมเพื่อให้บรรลุการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ 

สิ่งอำนวยความสะดวกด้านพลังงานของสถานที่สามารถทำได้ง่ายขึ้น เช่น จากห้องหนึ่งไปยังตู้เก็บอุปกรณ์ และจากตู้เก็บอุปกรณ์ไปยังอีกเสาหนึ่ง ระบบระบายความร้อนตามธรรมชาติจะลดความต้องการเครื่องปรับอากาศและพัดลม และเสริมประสิทธิภาพการใช้พลังงานในสถานที่ (SEE) จาก 60% เป็น 97% 

ระบบระบายความร้อนใช้พลังงานประมาณ 30% จากพลังงานทั้งหมดที่จำเป็นต้องใช้สำหรับห้องศูนย์ข้อมูล เทคโนโลยี เช่น การระบายความร้อนแบบอิสระและการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานด้วย AI สามารถลด PUE ของศูนย์ข้อมูลจาก 1.45 เป็น 1.15 ได้ 

รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินเป็นหนึ่งใน 3 อันดับต้น ๆ ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโลก ถูกแทนที่ด้วยรถยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม สถานีชาร์จไม่สามารถตามทันการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าได้ ผู้ประกอบการรวมถึง DT มีบทบาทที่สำคัญในการก่อสร้างสถานีชาร์จ โดยบริษัทได้ติดตั้งสถานีชาร์จไปแล้วมากกว่า 200 แห่ง 

  • ผู้ผลิตพลังงาน: ขยายค่าโครงสร้างพื้นฐานสูงสุดโดยการผลิตและควบคุมพลังงาน 

ผู้ประกอบการจะกลายเป็นผู้ผลิตพลังงาน และมีส่วนร่วมเชิงรุกในการผลิตและควบคุมพลังงาน 

สำหรับการผลิตพลังงาน ผู้ประกอบการมีสถานที่เกือบ 10 ล้านแห่ง และพื้นที่อีกหลายหมื่นแห่งทั่วโลก ซึ่งปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์หลายร้อยล้านตัน ในแอฟริกาใต้ เพื่อแก้ไขปัญหาไฟฟ้าดับบ่อยครั้ง จึงได้มีการติดตั้งระบบ PV ขนาด 6.5 kW ที่สถานีฐานเพื่อผลิตไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 11,000 kWh ต่อสถานที่ในทุกปี ซึ่งสามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 6 ตัน อัตราความพร้อมใช้งานของไซต์ได้เพิ่มขึ้นจาก 79.5% เป็น 95% และมีผู้เข้าใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 30%  

ในประเทศจีน ระบบ PV ขนาด 800 kW ในศูนย์ข้อมูลหนึ่งแห่ง สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 1 ล้าน kWh ต่อปี ในเยอรมนี ระบบ PV ขนาด 7.8 MW ในองค์กร สามารถผลิตไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ 8.5 ล้าน kWh ต่อปี ซึ่งสามารถบรรลุเป้าหมายพลังงานสีเขียวได้ด้วยตนเอง ผู้ประกอบการหลายรายกำลังพัฒนาโรงไฟฟ้าระดับกิจการอีกด้วย ตัวอย่างเช่น เมืองออเรนจ์ได้ประกาศว่าจะสร้างโซลาร์ฟาร์ม 80 MW ในฝรั่งเศส ซึ่งจะผลิตไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า 1 พันล้าน kWh ให้กับบริษัทในอนาคต 

ในส่วนของการควบคุมพลังงาน ระบบไฟฟ้าอาจไม่เสถียร เนื่องจากใช้สัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในปริมาณมาก ซึ่งเป็นการทำให้ช่องว่างระหว่างค่าไฟที่สูงสุดกับต่ำสุดเพิ่มขึ้น ดังนั้น การลดความต้องการกำลังไฟฟ้าสูงสุดและการควบคุมความถี่สามารถบ่งบอกถึงโอกาสในการเพิ่มรายได้ สามารถใช้ระบบกักเก็บพลังงานในสถานที่เพื่อควบคุมความแตกต่างด้านราคา ระบบจะเก็บพลังงานเมื่อราคาไฟฟ้าต่ำและจะปล่อยไฟฟ้าในช่วงระยะเวลาที่ราคาไฟฟ้าพุ่งขึ้นสูงเพื่อลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้า ในเมืองหังโจว ประเทศจีน การสลับเวลาการใช้ไฟฟ้าช่วยให้ผู้บริโภคสามารถลดค่าไฟฟ้าได้เกือบ 20% และประหยัดได้ราว 800 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี เนื่องจากระบบกักเก็บพลังงานในสถานที่เป็นส่วนหนึ่งของ VPP อีกด้วย และสามารถกำหนดเวลาในฐานะที่เป็นโหลดไฟฟ้าที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ผู้ประกอบการจึงสามารถสร้างรายได้มากขึ้น ในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน รัฐบาลสนับสนุนสถานที่ถึง 10,000 แห่งให้มีการก่อสร้างใหม่ให้เป็นสถานที่ VPP ที่ไม่เพียงแต่จ่ายไฟฟ้าสำหรับ 5G เท่านั้น แต่ยังมีส่วนร่วมในการลดความต้องการกำลังไฟฟ้าสูงสุดและการควบคุมความถี่ของระบบไฟฟ้ากำลังในเมือง ซึ่งจะสามารถเพิ่มรายได้ได้ถึง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีให้กับสถานที่ VPP ในแต่ละแห่ง 

  • ผู้มอบพลังงาน: สร้างระบบจ่ายพลังงานที่ปลอดภัย เสถียร และมีประสิทธิภาพ 

ในอนาคต ผู้ประกอบการจะกลายเป็นผู้มอบพลังงานผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งจะมอบระบบจ่ายพลังงานที่ปลอดภัย มีเสถียรภาพ และมีประสิทธิภาพสำหรับทั้งพลังงานทั่วไปและพลังงานหมุนเวียน ในเมืองซานซี ประเทศจีน ผู้ประกอบการช่วยให้กลุ่มการทำเหมืองถ่านหินที่มีการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น 5G ระบบคลาวด์ และ AI ในการควบคุมการทำเหมืองในบ่อน้ำลึก จากระยะไกลโดยให้หุ่นยนต์ทำการตรวจสอบอัตโนมัติในพื้นที่ทำเหมือง และนำยานพาหนะแบบไร้คนมาใช้เพื่อขนส่งสินค้า ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานผ่านระบบอัตโนมัติ 

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสภาพอากาศมีอิทธิพลที่สำคัญต่อพลังงานหมุนเวียนที่ได้มาจากแสงอาทิตย์หรือลม เทคโนโลยีดิจิทัลสามารถช่วยคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำและสามารถกำหนดเวลาของไฟฟ้าอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน ในเมืองเสฉวน ประเทศจีน โมเดลอุตุนิยมวิทยาถูกนำไปใช้เพื่อช่วยเหลือโรงไฟฟ้า PV ที่ตั้งอยู่บนความสูงที่สุดของโลก เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์ไฟฟ้า 25% ขึ้นไป นอกจากนี้ เทคโนโลยีการสื่อสารจะอำนวยความสะดวก ให้กับ O&M จากระยะไกล และกำหนดเวลาของพลังงานหมุนเวียน ซึ่งช่วยลดภาระงาน O&M ได้เป็นอย่างมาก 

Huawei ได้มอบผลิตภัณฑ์แก่ผู้ประกอบการที่ผสานรวมเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเช่น 5G, AI และคลาวด์ ซึ่งมีส่วนในการช่วยเสริมสร้างการสื่อสารทั่วโลก และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานให้เป็นระบบดิจิทัลในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนทั่วโลก Huawei จะมอบผลิตภัณฑ์และบริการแก่ผู้ประกอบการที่ผสานรวมกับเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์กำลัง เช่น PV, VPP และการจัดการพลังงานเข้าด้วยกัน นอกจากขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจแล้ว ผลิตภัณฑ์และโซลูชันของ Huawei จะช่วยให้ผู้ประกอบการและสังคมในองค์รวมสามารถเข้าใกล้เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนขึ้นอีกหนึ่งระดับ เมื่อมองไปข้างหน้า Huawei Digital Power จะทำงานไปพร้อมกับผู้ประกอบการเพื่อเขียนการพัฒนาบทใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยให้พวกเขาประสบผลสำเร็จท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนทั่วโลก 

ขณะที่ใครก็ตามพยายามคาดการณ์อนาคตแต่เรากลับเป็นผู้สร้างมันขึ้นมา ในเส้นทางของการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขอให้ทุกคนมาร่วมมือกันเพื่อสร้างสังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนยิ่งขึ้น เพื่อให้โลกของเรามีอนาคตที่สดใสสำหรับคนรุ่นใหม่ ๆ ต่อไป